วันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ความหมายของธุรกิจ

          เครือข่ายเฉพาะส่วนขององค์การ หรือหน่วยงาน ที่นำซอฟต์แวร์ หรือฮาร์ดแวร์แบบอินเทอร์เน็ตมาประยุกต์ใช้ อินทราเน็ตจึงเป็นเครือข่าย เพื่อระบบงานภายในโดยมุ่งเน้นข้อมูลและสารสนเทศเพื่อบริการแก่บุคลากร เครือข่ายอินทราเน็ต จะต่อเชื่อมเข้าสู่อินเทอร์เน็ตด้วยหรือไม่นั้นไม่ใช่สิ่งสำคัญ แต่แนวคิดหลักของอินทราเน็ต คือ การสร้างเครือข่ายในองค์การโดยมีคอมพิวเตอร์ทำหน้าที่เป็นอินเทอร์เน็ตเซิร์ฟเวอร์เพื่อให้บริการข้อมูลในรูปแบบเดียวกับที่ใช้งานในอินเทอร์เน็ต และขยายเทอร์มินัลเครือข่ายไปยังทุกแผนก ให้บุคลากรสามารถค้นข้อมูลและสื่อสารถึงกันได้ เซิร์ฟเวอร์หลักภายในอินเทอร์เน็ต คือ เว็บเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งใช้เป็นศูนย์บริการข้อมูลข่าวสารระบบ WWW ให้บริการข้อมูลได้ทั้งข้อความเสียง ภาพนิ่ง หรือภาพเคลื่อนไหวผ่านทางโปรแกรม Browser ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ง่ายต่อการเรียนรู้และใช้งานโปรแกรม Browser ส่วนใหญ่ได้ผนวกบริการหลักของอินเทอร์เน็ตไว้ในตัว เช่น จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) การถ่ายโอนย้ายแฟ้ม (FTP) หรือกระดานข่าย (Use Net) เป็นต้น


ความสำคัญของการนำอินเทอร์เน็ตมาใช้ในงานธุรกิจด้านต่างๆ

          หลายประเทศทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology) หรือเรียกโดยย่อว่า “ไอที” ซึ่งหมายถึง ความรู้ในวิธีการประมวลผล จัดเก็บรวบรวม เรียกใช้ และนำเสนอข้อมูลด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องมือที่จำเป็นต้องใช้สำหรับงาน ไอที คือ คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคม ตลอดจนโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารไม่ว่าจะเป็นสายโทรศัพท์ ดาวเทียม หรือเคเบิลใยแก้วนำแสง อินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือสำคัญอย่างหนึ่งในการประยุกต์ใช้ไอที หากเราจำเป็นต้องอาศัยข้อมูลข่าวสารในการทำงานประจำวัน อินเทอร์เน็ตจะเป็นช่องทางที่ทำให้เราเข้าถึงข้อมูลได้ในเวลาอันรวดเร็ว


ลักษณะธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์

1) การขายตรงไปยังผู้ค้าส่ง ผู้ค้าปลีก หรือธุรกิจกับธุรกิจ
2) การขายตรงไปยังผู้บริโภค หรือธุรกิจกับผู้บริโภค
3) การขายตรงสู่ผู้บริโภคด้วยกันเอง หรือผู้บริโภคกับผู้บริโภค
4) การขายตรงให้หน่วยงานราชการ หรือธุรกิจกับรัฐบาล
5) การขายตรงระหว่างรัฐบาลกับรัฐบาล


ประเภทของการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์

1) ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอินเทอร์เน็ตโดยตรง 
2) ธุรกิจด้านคอมพิวเตอร์
3) ธุรกิจทางด้านการท่องเที่ยว
4) ธุรกิจด้านการส่งออก 
5) ธุรกิจค้าปลีกสินค้าทั่วไป


วัตถุประสงค์ของการนำอินเทอร์เน็ตมาใช้ในงานธุรกิจ

1. เพื่อให้ธุรกิจของตนเองพร้อมให้บริการแก่ลูกค้าทางอินเทอร์เน็ต
2. เพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างเครือข่ายของธุรกิจ
3. เพื่อให้ข้อมูลของบริษัทพร้อมให้ลูกค้าเข้ามาค้นหาได้
4. เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการลูกค้า
5. ขยายผลและขอบเขตการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้น
6. ขจัดปัญหาด้านเวลาดำเนินการของธุรกิจ
7. การขายสินค้าหรือบริการ
8. การนำเสนอข้อมูลของธุรกิจแบบ Multi-media
9. การเข้าสู่ตลาดที่ลูกค้ามีความต้องการบริโภคสินค้าสูง
10. การตอบคำถามของลูกค้าที่เกิดขึ้นบ่อยๆ







อ้างอิง

1.ความหมายของธุรกิจ(มปป.)สืบค้นจากhttp://www.rachinuthit.ac.th/wanida/pages/k2.html(23 พฤศจิกายน 2558)
2.ความสำคัญของการนำอินเทอร์เน็ตมาใช้ในงานธุรกิจด้านต่างๆ(มปป.)สืบค้นจากhttp://www.rachinuthit.ac.th/wanida/pages/k2.html(23 พฤศจิกายน 2558)
3.ลักษณะธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์(มปป.)สืบค้นจากhttp://www.rachinuthit.ac.th/wanida/pages/k6.html(23 พฤศจิกายน 2558)
4.ประเภทของการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์(มปป.)สืบค้นจากhttp://www.rachinuthit.ac.th/wanida/pages/k6.html(23 พฤศจิกายน 2558)
5.วัตถุประสงค์ของการนำอินเทอร์เน็ตมาใช้ในงานธุรกิจ(2551)สืบค้นจากhttp://www.pawoot.com/node/88/(23 พฤศจิกายน 2558)

 

 


 

วันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

หน่วยที่ 1 ความรู้เบื้งต้นเกี่ยวกับสังคมออนไลน์ กัญญาวีร์ ฟูงพงษ์ ขวัญภิรมย์ สุขเขียว

สังคมออนไลน์ (social  Media) คืออะไร


         Social Media คืออะไร

        สำหรับในยุคนี้ เราคงจะหลีกเลี่ยงหรือหนีคำว่า Social Media ไปไม่ได้ เพราะไม่ว่าจะไปที่ไหน ก็จะพบเห็นมันอยู่ตลอดเวลา ซึ่งหลายๆ คนก็อาจจะยังสงสัยว่า “Social Media” มันคืออะไรกันแน่ วันนี้เราจะมารู้จักความหมายของมันกันครับ

        คำว่า “Social” หมายถึง สังคม ซึ่งในที่นี้จะหมายถึงสังคมออนไลน์ ซึ่งมีขนาดใหม่มากในปัจจุบัน
        คำว่า “Media” หมายถึง สื่อ ซึ่งก็คือ เนื้อหา เรื่องราว บทความ วีดีโอ เพลง รูปภาพ เป็นต้น
        ดังนั้นคำว่า Social Media จึงหมายถึง สื่อสังคมออนไลน์ที่มีการตอบสนองทางสังคมได้หลายทิศทาง โดยผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต พูดง่ายๆ ก็คือเว็บไซต์ที่บุคคลบนโลกนี้สามารถมีปฏิสัมพันธ์โ้ต้ตอบกันได้นั่นเอง
        พื้นฐานการเกิด Social Media ก็มาจากความต้องการของมนุษย์หรือคนเราที่ต้องการติดต่อสื่อสารหรือมีปฏิสัมพันธ์กัน จากเดิมเรามีเว็บในยุค 1.0 ซึ่งก็คือเว็บที่แสดงเนื้อหาอย่างเดียว บุคคลแต่ละคนไม่สามารถติดต่อหรือโต้ตอบกันได้ แต่เมื่อเทคโนโลยีเว็บพัฒนาเข้าสู่ยุค 2.0 ก็มีการพัฒนาเว็บไซต์ที่เรียกว่า web application ซึ่งก็คือเว็บไซต์มีแอพลิเคชันหรือโปรแกรมต่างๆ ที่มีการโต้ตอบกับผู้ใช้งานมากขึ้น ผู้ใช้งานแต่ละคนสามารถโต้ตอบกันได้ผ่านหน้าเว็บ
 
เว็บไซต์ ที่ให้บริการ Social Network หรือ Social Media
 

ประเภทของเครือข่ายสังคมออนไลน์

1. สร้างและประกาศตัวตน (Identity Network)
2. สร้างและประกาศผลงาน (Creative Network)
3. ความชอบในสิ่งเดียวกัน (Passion Network)
4. เวทีทำงานร่วมกัน (Collaboration Network)
5. ประสบการณ์เสมือนจริง (Virtual Reality)
6. เครือข่ายเพื่อการประกอบอาชีพ (Professional Network)
7. เครือข่ายที่เชื่อมต่อกันระหว่างผู้ใช้ (Peer to Peer : P2P)

วัถุประสงค์ของสังคมออนไลน์

ด้วยจุดเด่นของสื่อสังคมออนไลน์ที่สามารถมีความสะดวกและรวดเร็วในการเผยแพร่และการรับข้อมูลข่าวสาร จึงทาให้สื่อสังคมออนไลน์ถูกนามาใช้ในการเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารทั้งของ ภาคประชาชน ภาครัฐ และภาคเอกชน

ประโยชน์ของสังคมออนไลน์

  • ติดต่อสื่อสารในราคาที่ถูก
  • รวดเร็วต่อการประชาสัมพันธ์
  • สะดวกและทันสมัย
  • กว้างขวางในการติดต่อ
  • ประโยชน์ทางด้านธุรกิจและอื่นๆ
  • เชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนฝูง
  • ความรู้ข้อมูล ข่าวสารอื่นๆ
  • ฯลฯ

โทษของสังคมออนไลน์

  • มิจฉาชีพทางระบบออนไลน์
  • ผู้ที่นำเราไปแอบอ้าง
  • การละเมิดสิทธิ
  • โรค Social Network พักผ่อนไม่เพียงพอตามมา
  • ทำให้คนไม่กล้ารู้จักกันในโลกความเป็นจริง
  • ปัญหาด้านการงาน การเรียน
  • ความเป็นส่วนตัวลดลง

ประเภทของอุปกรณ์ที่ใช้ในระบบ Social Network ในปัจจุบัน

  • คแอมพิวเตอร์
  • สมาร์ทโฟน
  • แท็บเล็ต
  • เซิร์ฟเวอร์
  • ไคลเอนต์
  • รีพีตเตอร์
  • เนทเวิร์ค สวิต
  • เราต์เตอร์
  • บริดจ์
  • เกตเวย์
 

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ โทรศัพท์ iphone 6s

 

 

 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

ข้อควรระวังเกี่ยวกับสังคมออนไลน์

  • พึงตระหนักเสมอว่าการโพสต์ข้อความ หรือแสดงความคิดเห็นให้เผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์
  • อย่าเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวมากเกินไป บนสื่อสังคมออนไลน์
  • ไม่ควรโพสต์ข้อความ ที่ชี้ชวนให้มิจฉาชีพรับรู้ความเคลื่อนไหวส่วนตัวของเราตลอด
  • ใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่งในการโพสต์
  • พึงระมัดระวังอย่างยิ่งที่จะไว้ใจหรือเชื่อใจคน ที่รู้จักผ่านอินเทอร์เน็ต ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลส่วนตัว
  • ให้ระมัดระวังการเช็คอิน (Check-in) ผ่านสื่อสังคมออนไลน์

แหล่งอ้างอิงข้อมูล

2.ประเภทของเครือข่ายสังคม(2555)สืบค้นจากhttps://charungjirakiat.wordpress.com/2012/12/16/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88-5-%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%AD/(16 พฤศจิกายน 2558)
3.วัตถุประสงค์ของสังคมออนไลน์(2555)สืบค้นจากhttp://earthwara.blogspot.com/
4.ประโยชน์ของสังคมออนไลน์(มปป.)สืบค้นจากhttps://docs.google.com/document/d/1uv5cJxsklNIRuECBeCwlaSctseJrkOnL-gX-eAsog2A/edit?hl=th(16 พฤศจิกายน 2558)
5.โทษของสังคมออนไลน์(มปป.)สืบค้นจากhttps://docs.google.com/document/d/1uv5cJxsklNIRuECBeCwlaSctseJrkOnL-gX-eAsog2A/edit?hl=th(16 พฤศจิกายน 2558)
6.ประเภทของอุปกรณ์ที่ใช้ในระบบ Social Network ในปัจจุบัน(2555)สืบค้นจากhttp://www2.ipsr.mahidol.ac.th/newsletter/index.php/2012-11-08-03-49-15/34-2/93-cat-popdev-vol34-no2/169-2013-12-12-02-59-10.html(16 พฤศจิกายน 2558)
7.ข้อควรระวังเกี่ยวกับสังคมออนไลน์(2557)สืบค้นจากhttp://smforedu.blogspot.com/2014/02/blog-post.html(16 พฤศจิกายน 2558)